สถาปนิกผังเมือง (Urban designer) ไม่ใช่นักวางแผนเมือง (Urban planner)

สถาปนิกผังเมือง (Urban designer) ไม่ใช่นักวางแผนเมือง (Urban planner)

จั่วหัวขึ้นมาอย่างนี้ เพราะถึงแม้ทั้งคู่จะทำเรื่องเกี่ยวกับเมือง ๆ ก็ตาม แต่บทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบและองค์ความรู้เบื้องหลังนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าหลักสูตรการวางแผนเมืองในหลายมหาวิทยาลัยในไทย ถูกจัดเข้าไปอยู่ในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เพียงเพราะว่าเป็นที่ ๆ มีหลักสูตรการออกแบบเมือง (urban design) อยู่เดิม

นักวางแผนเมือง (หรือไทยชอบเรียกนักผังเมือง แต่ส่วนตัวคิดว่าความเป็น urban planner ต้องทำอะไรได้มากกว่าแค่การทำผังเมือง) นั้นต้องรู้ศาสตร์หลากหลายมากกว่าแค่เพียงแค่การออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ฯลฯ เพราะเมืองไม่สวยแต่ function คนยังพออยู่ได้ แต่เมืองที่มีแต่อาคารสวย ๆ แต่ทางเท้าเละ ๆ ขนส่งมวลชนแย่ ๆ คนอยู่ไม่มีความสุข

สกิลที่นักวางแผนเมืองควรมีก็แตกต่างจากสกิลของสถาปนิก การที่เราเอาหลักสูตรการวางแผนเมืองไปใส่ในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ก็ทำให้นักเรียนจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิดว่าเรียนสถาปัตย์จบแล้วไปเรียนต่อผังเมืองก็ได้คล้าย ๆ กัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การวางแผนเมืองต้องการ analytical skill, critical thinking skill (ยังไม่นับ soft skill ที่ไว้จะอธิบายในตอนต่อไป)

นอกจากนี้ ถึงแม้ผังเมือง(ไม่ใช่การวางแผนเมือง)จะเป็นเรื่องของกายภาพ (กายภาพในที่นี้หมายถึง ผังเมืองคือการแปล requirement ต่าง ๆ ให้ออกมาให้รูปของข้อกำหนดการใช้พื้นที่ เพราะรัฐไม่สามารถสร้างอาคารเองได้ทุกที่ แต่ต้องออกกฎอะไรมาซักอย่างเพื่อกระตุ้นให้เอกชนนั้นสร้างอาคารตามที่รัฐอยากให้เป็น) แต่ใช่ว่าคนที่เรียนมาทางด้านกายภาพทุกคน (เช่น ภูมิศาสตร์ ฯลฯ) จะเหมาะกับการวางแผนเมือง

ถ้าถามว่าแล้วสถาปนิกผังเมืองกับนักวางแผนเมืองควรเกี่ยวข้องกันอย่างไร คำตอบคือ นักวางแผนเมืองเป็นคนทำผังเมืองต่าง ๆ ออกมา เมื่อเสร็จแล้วสถาปนิกผังเมืองค่อยเข้าไปออกแบบพื้นที่พิเศษ เช่น พื้นที่อนุรักษ์ ชุมชนประวัติศาสตร์ ฯลฯ ส่วนสถาปนิกก็ทำหน้าที่ออกแบบอาคารต่อไป

จริง ๆ ที่ผังเมืองไทยไม่ค่อยเวิร์ค ยังมีอีกหลายปัจจัย ทั้งเชิงโครงสร้างการบริหารและอื่น ๆ แต่ในที่นี้ขอยกตัวอย่างแค่ว่าถ้าหลักสูตรการวางแผนเมืองไม่ได้อยู่กับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์แล้ว น่าจะดึงดูดคนที่มีความสามารถหลากหลายมากกว่าแค่คนที่สนใจการออกแบบหรือความรู้เชิงกายภาพให้เข้ามาเรียนในหลักสูตรการวางแผนเมืองได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน